5 เหตุการณ์สำคัญของ พาร์ค จี ซอง กับทีมปีศาจแดง

พาร์ค จี ซอง อดีตมิดฟิลด์แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศแขวนสตั๊ดเป็นที่เรียบร้อยในสัปดาห์นี้ ดาวเตะชาวเกาหลีใต้ย้ายจากพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น มาอยู่กับทีมปีศาจแดงในปี 2005 โดยคว้าแชมป์ลีก 4 สมัย ก่อนที่จะย้ายไปควีนส์ พาร์ค เรนเจอร์ส ในปี 2012 จากนั้นก็กลับไปเล่นกับพีเอสวีอีกครั้งแบบยืมตัว
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คว้าตัวเขามาร่วมทีมด้วยค่าตัวแค่ 4 ล้านปอนด์เท่านั้น จึงถือว่าจี ซอง เป็นดีลที่ประสบความสำเร็จของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาเป็นนักเตะที่เหมาะสำหรับลงเตะเกมใหญ่ และก็เอาชนะใจแฟนๆ ได้ด้วยพละกำลังที่ไม่มีหมด และบุคลิกภาพที่อ่อนน้อมถ่อมตน
ในการให้เหตุผลเกี่ยวกับการแขวนสตั๊ด นักเตะวัย 33 ปีได้เน้นไปที่อาการบาดเจ็บที่หัวเข่าเป็นหลัก แต่เขาก็ไม่เสียใจเลยเมื่อมองย้อนกลับไปในอาชีพค้าแข้งของเขาซึ่งถือว่ามาไกลกว่าที่เขาคาดคิดเอาไว้มาก
ในสมัยที่พาร์คยังเล่นอยู่ เขาเป็นนักเตะคนสำคัญในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ไม่แพ้ผู้เล่นคนอื่นๆ ที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก ร่วมกับเขา และเพื่อเป็นเกียรติแก่อดีตนักเตะคนนี้ เราจึงจะมาย้อนดู 5 เหตุการณ์สำคัญของเขาในโรงละครแห่งความฝันกัน…

ได้เป็นนักเตะเอเชียคนแรกที่สวมปลอกแขนกัปตันให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ในช่วง 7 ฤดูกาลที่อยู่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้น พาร์ค จี ซอง ได้เป็นผู้บุกเบิกสถิติใหม่ๆ หลายอย่าง หนึ่งในนั้นก็คือการได้เป็นนักเตะเอเชียคนแรกที่ได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมปีศาจแดง มันเกิดขึ้นในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2005 เขาถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน ไรอัน กิ๊กส์ ในเกมเหย้าที่เจอกับลีลล์ และก็ได้สวมปลอกแขนดังกล่าวแทนทันที
นับว่าพาร์คได้มีชื่อเข้าไปรวมอยู่ในกลุ่มนักเตะปีศาจแดงหลายคนที่เคยรับหน้าที่เป็นกัปตันทีมให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคียงข้าง บ็อบบี้ ชาร์ลตัน, สตีฟ บรู๊ซ, ไบรอัน ร็อบสัน, เอริก คันโตน่า และ รอย คีน
พาร์คได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับนักเตะเอเชียที่เล่นในเวทียุโรป และสถิติที่เขาได้สร้างไว้ก็จะเป็นจดจำไปอย่างยาวนานในวงการฟุตบอลอีกหลายปีนับจากนี้เป็นต้นไป

ได้เป็นนักเตะเอเชียคนแรกที่คว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก
ไม่ใช่แค่ได้เป็นนักเตะเอเชียคนแรกที่สวมปลอกแขนกัปตันทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เท่านั้น เขายังเป็นนักเตะจากเอเชียคนแรกที่ทั้งคว้าแชมป์ และได้ลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วย
พาร์คอาจจะเสียใจที่พลาดลงเล่นนัดชิงชนะเลิศ ในปี 2008 ที่ดวลจุดโทษเอาชนะเชลซี เมื่อ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เลือกใช้งาน โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ แทนในแผงมิดฟิลด์ แต่เขาก็ยังได้รับเหรียญชนะเลิศจากการมีชื่อในทีมชุดนั้นอยู่ดี และปีต่อมาเขาก็ได้ลงเล่นนัดชิงชนะเลิศ จนได้ แต่แพ้ให้กับบาร์เซโลน่าไป 0-2
นอกเหนือจากนั้นแล้ว พาร์คก็ยังถือว่าเป็นนักเตะเกาหลีใต้คนแรกที่ได้ลงเล่นในเวทีพรีเมียร์ ลีก ด้วย โดยเขาคว้าแชมป์ลีกไป 4 สมัย ถือว่าประสบความสำเร็จเกินเป้าจริงๆ

ทำประตูแรกให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
พาร์คทำประตูให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 27 ลูก จากการลงเล่น 205 เกม โดยประตูแรกของเขากับสโมสรเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2005 เป็นเกมที่เอาชนะเบอร์มิงแฮม ซิตี้ 3-1 ในลีก คัพ รอบ 5
ประตูนั้นเป็นการลากตัดเข้ามาในกรอบเขตโทษ นักเตะชาวเกาหลีใต้กระชากหลบกองหลังก่อนที่จะซัดเข้ามุมประตูทำให้สกอร์ขยับเป็น 2-0 ในตอนนั้น
จากประตูนี้ก็ได้ทำให้เขากลายเป็นนักเตะเกาหลีใต้คนแรกที่ทำประตูให้กับทีมปีศาจแดงด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งสถิติสำหรับแข้งหมายเลข 13 คนนี้ ตอกย้ำสถานะหนึ่งในนักเตะเอเชียที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์เข้าไปอีก

การทำประตูลิเวอร์พูลได้ รวมถึงกับทีมใหญ่อีกหลายทีม
พาร์ค จี ซอง เป็นนักเตะที่เหมาะสำหรับเกมใหญ่ๆ เขาได้รับความไว้วางใจจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในการส่งชื่อทำศึกกับสโมสรคู่ปรับสำคัญหลายต่อหลายเกม
เขามักจะทำประตูในเกมเหล่านั้นได้อยู่ตลอด อย่างเช่นประตูในช่วงต้นเกมที่ยิงใส่เชลซีในฤดูกาล 2008/09 ตอนนั้นสกอร์ยังเสมอกันอยู่ 0-0 และพาร์คก็มาสับไกยิงผ่านมือ ปีเตอร์ เช็ค เข้าไปเป็นลูกขึ้นนำ เชลซีอาจจะกลับมาตีเสมอได้ก็จริง แต่ด้วยฟอร์มในวันนั้นก็ทำให้พาร์คได้รับรางวัลแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปครอง
อีกประตูเกิดขึ้นในเกมกับลิเวอร์พูลในปี 2010 พาร์คพุ่งโขกตอร์ปิโดบกใส่ทีมหงส์แดง ซึ่งนั่นกลายมาเป็นประตูชัยในภายหลัง แต่นั่นก็ไม่ดีเพียงพอที่จะทำให้ทีมเป็นแชมป์ เนื่องจากเป็นเชลซีที่ได้ชูถ้วยเมื่อจบฤดูกาล แต่อย่างน้อยพาร์คก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาเป็นนักเตะคนหนึ่งที่ทีมสามารถพึ่งพาได้ในเกมเหล่านี้

ซัดประตูชัยในแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ
อีกครั้งที่เขาทำประตูสำคัญได้ในเกมใหญ่ เป็นการพบกับเชลซีในแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ ปี 2011
ดิดิเยร์ ดร็อกบา เพิ่งจะยิงตีเสมอที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ได้ไม่นาน และดูเหมือนว่าทีมสิงห์บลูส์จะกลับมาสู่เกมแล้ว แต่หลังจากนั้น ไรอัน กิ๊กส์ ก็ผ่านบอลให้พาร์คพักอกก่อนสับไกด้วยซ้ายผ่านมือ ปีเตอร์ เช็ค เข้าไปตุงตาข่าย ทำให้สกอร์รวม 2 นัดขยับเป็น 3-1 และทีมก็ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ
น่าเสียดายที่ผลการแข่งขันในนัดชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก ปีนั้นก็เหมือนกับครั้งก่อนที่ชิงกับบาร์เซโลน่า คราวนี้ทีมยักษ์ใหญ่จากสเปนเป็นฝ่ายชนะไปด้วยสกอร์ 3-1 อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พาร์คได้ทำให้กับทีมก็จะไม่มีวันถูกลืมเลือนไปได้เลย เราคงต้องกล่าวคำขอบคุณไปยัง พาร์ค จี ซอง สำหรับสิ่งดีๆ เหล่านี้ และก็ขอให้เขาโชคดีกับชีวิตต่อไปหลังแขวนสตั๊ด
SiR KeaNo

2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC

Related Posts

Dom